กันดั้มศึกษา ตอนที่ 10

"ศาสตร์แห่ง กันดั้ม นั้นไซร้...ง่ายนิดเดียว!" (เหรอ?)
คำตอบอยู่ในคาบเรียนนี้ เพื่อนักบินเฟรชชี่โดยเฉพาะ!

สัปดาห์นี้ เราจะมาทลายกำแพงด้วย คอลัมน์สำหรับแฟนกันดั้มมือใหม่ อันสุดเบสิคคอลัมน์ที่ 10 กัน

เมื่อตอนที่ ตอนที่ 1 เราเสนอเรื่องใบหน้าและสีสันของกันดั้ม, ตอนที่ 2 ก็เป็นเรื่องของชายสวมหน้ากากและฮาโร่, ตอนที่ 3 คือเรื่องของศักราชอวกาศ, ตอนที่ 4 โมบิลสูท, ตอนที่ 5คือ MSVs , ตอนที่ 6 ครอบคลุมถึง “ซาคุ” และ “จิม” ตอนที่ 7 เป็นเรื่องการเปลี่ยนอุปกรณ์ของกันดั้ม, ตอนที่ 8 ก็เป็นเรื่องของการวิจัยและพัฒนากันดั้ม, ตอนที่ 9 เป็นสาวๆ ในซีรีย์ของกันดั้ม และสัปดาห์นี้ เราก็ยังคงมีสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญของกันดั้มมาให้อ่านกันต่อไป

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วในตอนก่อน กันดั้มไม่ได้เป็นเพียงแค่หุ่นเจ๋งๆ ที่มีเรื่องราวมากมาย แต่มันยังมีรายละเอียดอีกหลายส่วน ที่เกี่ยวพันกันเป็นเรื่องราวที่ลึกซึ้งในความสัมพันธ์ของมนุษย์ ดังนั้น ในตอนที่ 10 นี้ เราจะนำเสนอประเภทของ “พี่ใหญ่” ที่สตรองก์, แสนดี, น่านับถือ ในกันดั้มกัน

บทที่ 1

อะไรคือเอกลักษณ์ของกันดั้ม? “พี่ใหญ่” ที่มาแนวน่านับถือ จะช่วยให้ตัวละครมีพัฒนาการ!

ก่อนอื่นขอแนะนำให้รู้จักกับ สเลกการ์ ลอว์ (Sleggar Law), ที่มีหน้าตาละม้ายคล้าย (ซิล...ตื้ดด! สตอลโลน?) หรือใครซักคนนี่แหละ เขาเป็นนักบินของฝ่ายสหพันธ์โลกในภาคโมบิลสูทกันดั้ม

ชายผู้มีพลังล้นเหลือ มาพร้อมกับความมีเสน่ห์แบบเมดิเตอเรเนียน เขาไม่เคยรอช้าที่จะเข้าไปพูดคุยเล่นหัวกับ เซย์ลา และมิไร (ยาชิมา)ทันทีหลังจากได้รับมอบหมายให้เข้าประจำการณ์บนยานไวท์เบส (White Base) อย่างไรก็ดีผู้ชายคนนี้มีอะไรที่มากกว่าความถนัดในการใช้วาทศิลป์อยู่เหมือนกัน เขาเป็นพลปืน และมีทักษะการเป็นนักบินที่เทียบเคียงกับนักบินยศร้อยโทชั้นต้นๆ เลยทีเดียว (ดูจากที่เขาเป็นคนเดียวที่นับสกอร์ยิงถูกเป้าหมายด้วยปืนหลักของไวท์เบส ในเวลาทีมีการดวลกันระหว่างยานรบต่อยานรบ)

แม้ว่าสเลกการ์จะดูเหมือนพี่ใหญ่สุดคูลทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่เขาทำบน ไซด์ 6 นั้นกลับแสดงให้เห็นถึงบุคลิกอีกด้านหนึ่งของเขา, นายทหารผู้เฉียบขาดที่ตบหน้าของมิไร เมื่อเธอปฏิเสธที่จะช่วยเหลือยานที่ส่งมาโดยคาเมรอนอดีตคู่หมั้นของเธอ

แต่ก็นั่นแหละ ต่อมาความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มเบ่งบานจนกลายเป็นความรัก จากตอนที่สเลกการ์เข้าไปใกล้ๆ มิไรและกระซิบว่า “เธอเป็นสิ่งที่วิเศษเกินไปสำหรับฉัน เราทั้งสองคนเหมือนอยู่กันคนละโลก” พร้อมกับมอบแหวนของแม่ให้กับมิไรเพื่อเป็นที่ระลึก ก่อนที่จะเขาจะออกไปเผชิญกับมิชชั่นสุดท้ายของเขา (เศร้าแป๊บ)

สเลกการ์ยังคงความแมนไว้ได้จนนาทีสุดท้าย

ประโยคที่เขาพูดก่อนตายคือ “ฟังดูเศร้านะ, แต่สงครามก็คือสงคราม”

ต่อไป มู ลา ฟลากา (Mu La Flaga) จากโมบิลสูทกันดั้ม ซีด (MobileSuit Gundam Seed) เอซไพลอตแห่งสหพันธ์โลก (Earth Alliance) กองยานที่ 7 เขาเป็นภาพสะท้อนของความเป็น “พี่ใหญ่” อย่างชัดเจน แต่ก็ปิดบังอดีตที่ซับซ้อนเอาไว้

เขาเกิดในครอบครัวชนชั้นสูง และมีชีวิตที่หรูหรา แต่ปัญหาครอบครัวทิ้งปมในวัยเด็กไว้ให้กับเขา หลังจากความตายของพ่อและแม่ เขาก็เข้าสมัครเป็นกำลังพลของสหพันธ์โลก

เมื่อเข้าประจำการที่ยานรบอาร์คแองเจิล ด้วยท่าทีที่เป็นมิตรของเขาก็สามารถครองใจลูกเรือและ กัปตันมือใหม่ไร้ประสบการณ์อย่าง เมอร์ริว ราเมียส ได้อย่างง่ายดาย นับเป็นทรัพยากรที่มีค่าอย่างยิ่ง

หนึ่งในนั้นก็รวมทั้ง คิระ ยามาโตะ ที่ถูกมนต์เสน่ห์ของ “พี่ใหญ่” อย่างมูเข้าไปด้วย ถึงขนาดยึดเอาเป็นแบบอย่างกันเลยทีเดียว

อย่างที่รู้จักกันในฉายา “เหยี่ยวแห่งเอนดิเมียน” ความสามารถในการบินอันน่ามหัศจรรย์ของเขา ทำให้สามารถยึดเอาโมบิลอาร์เมอร์, กันดั้ม, หรือโมบิลสูทเครื่องอื่นๆ ของฝ่ายตรงข้ามกลับมาฝากฐานได้เรื่อยๆ ทั้งพันธมิตรและศัตรูต่างขนานนามเขาว่า “ชายผู้ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้” มูมีเซ้นส์พิเศษร่วมกันกับคู่ปรับตลอดกาลของเขา ราอูล เลอ ครูเซ็ท ซึ่งเป็นเอสไพลอทของฝ่าย ซาฟท์ ทั้งสองคนสามารถสื่อถึงกันได้เมื่ออยู่ในสมรภูมิเดียวกัน

เพื่อล้างอดีตทั้งหมดที่เคยมี และปกป้องอาร์คแองเจิลรวมทั้ง เมอร์ริวคนรัก เขาจำเป็นต้องสละชีวิตในการต่อสู้ แต่ต่อมาชายสวมหน้ากากชื่อ เนโอ โรอาโนค (Neo Roanoke) ก็ปรากฏตัวขึ้นในกองทัพของสหพันธ์โลก อยากรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น?

วิธีที่ดีที่สุดที่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ต้องดู โมบิลสูทกันดั้ม ซีด และ โมบิลสูทกันดั้ม เดสทินีด้วยตัวเองแล้วล่ะ!

คนสุดท้ายที่เราจะพูดถึงในบทนี้ นีล ดีแลนดี (Neil Dylandy) หนึ่งใน “กันดั้มไมสเตอร์” (นักบิน) แห่งกองกำลังของ เซเลสเชียล บีอิงก์ (Celestial Being) ที่ปรากฏตัวอยู่ในโมบิลสูทกันดั้ม ดับเบิลโอ

เขาเกิดในไอร์แลนด์ ตอนยังเด็กครอบครัวของเขาถูกสังหารในเหตุการณ์ระเบิดพลีชีพ โดย KPSA (กลุ่มกองโจรของสาธารณะรัฐครูกิส) อดีตอันแสนเศร้าทำให้เขาบ่ายหน้าไปสู่ เซเลสเชียล บีอิงก์ ที่เป้าหมายในการยุติสงครามทั้งหมด

นักแม่นปืนผู้มีประสบการณ์คนหนึ่ง เสนอให้เขารับหน้าที่เป็นพลแม่นปืนในหน่วยลอบสังหาร พรสวรรค์ในการยิงปืนจากระยะไกลได้นำพาเขาไปสู่บทบาทของกันดั้มไมสเตอร์ และใช้โค้ดเนมว่า ล็อกออน สตราโตส (Logon Stratos) เป็นผู้ขับ กันดั้ม ไดนาเมส (Gundam Dynames) และกลายเป็นสมาชิกที่ทรงคุณค่าใน เซเลสเชียล บีอิงก์

นีลผู้เป็นกันดั้มไมสเตอร์ที่อาวุโสสุดในทีม ถูกมองว่าเป็นพี่ใหญ่ในทีม ด้วยบุคลิกที่คูล, สันโดษของเขา ทำให้หนึ่งในสหายร่วมรบและตัวละครหลักอย่าง เซทสึนะ เอฟ เซอี (Setsuna F Seiei) รู้สึกสนใจเป็นพิเศษ คำพูดของเขามีอิทธิพลต่อวิธีมองโลก และทัศนคติที่มีต่อสงครามของเซทสึนะเป็นอย่างมาก

ความเคียดแค้นชิงชังต่อกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่พรากเอาความสุขและชีวิตครอบครัวไป กับหน่วยรบของตัวเองที่ใช้วิธีแบบกองโจรเพื่อต้องการยุติสงคราม ทำให้เขารู้สึกขัดแย้งในจิตใจ แต่ความรักในสันติภาพและพวกพ้องย่อมแรงกล้ากว่าสิ่งอื่นใด...

บทที่ 2 อะไรคือเอกลักษณ์ของกันดั้ม? “พี่ใหญ่” ที่เป็นทั้งคู่ปรับและผู้ชี้แนะในคนเดียวกัน

ต่อไปมาดู Woolf Enneacle (วูลฟ์ เอนนีเคิล) เอสไพลอทของสหพันธ์โลกในโมบิลสูทกันดั้ม เอจ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ "หมาป่าสีขาว" (White Wolf) ที่ดูเหมือนจะเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักซะมากกว่า(?!)

อดีตนักแข่งโมบิลสูท ผู้ปรารถนาจะเข้าไปเป็นสมาชิกของกองกำลัง ด้วยความมั่นใจในตัวเองอย่างไม่เป็นสองรองใคร นำพาให้ภาพลักษณ์ของเขากลายเป็นคู่ปรับ ที่มีลักษณะเหมือน “พี่ใหญ่” ไป

เขาเป็นคนประเภทที่อยู่ในฉากอาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมาด้วยท่วงท่าอันสง่างามฟรุ้งฟริ้ง วูลฟ์มีด้านที่ป่าเถื่อนและโหดร้าย ซึ่งยืนยันในสิ่งที่เขาเชื่ออย่างหนักแน่นว่า “ฉันสนใจแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์กับฉันเท่านั้น” การขับ Genoace Custom (จีโนส คัสตอม) สีขาวเพลนๆ และเรียกตัวเองว่า “Dashing figure” ในสนามรบ บ่งบอกถึงความหลงตัวเองของเขาได้เป็นอย่างดี

ในยุคแรก เขาตั้งใจจะเป็นคู่ปรับของฟลิต ด้วยการประกาศว่า “กันดั้มควรเป็นสีขาวล้วน” และความอึกทึกครึกโครมขนาดนี้ ได้กลายไปเป็นการต่อสู้ที่เย็นชากับพวก UE ในที่สุด โดยการขับ จี-เอกเซส (G-Exes) พร้อมด้วยบีมเซเบอร์ในมือทั้งสองข้าง ความเร็วของเขาเป็นที่น่าประทับใจยิ่งกว่าเอสไพลอตใดๆ

ในยุคที่ 2 เขากลับมาอีกครั้ง มีอายุ, ประสบการณ์ และเป็นผู้สอนที่ดี เขานำทางตัวละครชื่อ อาเซมุ อาสึโนะ นั่นทำให้เขาดูเป็นพ่อของอาเซมุ มากกว่าพ่อแท้ๆ ซึ่งก็คือฟลิทซะอีก ด้วยการช่วยอาเซมุให้ก้าวข้ามความกังวลของตัวเองไปได้

พี่ใหญ่คนสุดท้ายที่เราจะพูดถึงในวันนี้ก็คือ ชวาร์ซ บรูเดอร์ ( Schwarz Bruder) คนที่ดูไม่ค่อยเต็ม(?!) สวมหน้ากากและเสื้อคลุมจากโมบิลไฟเตอร์ จีกันดั้ม

กันดั้มไฟเตอร์จาก นีโอเยอรมัน เป็นผู้ขับ ชาโดว์กันดั้ม (Shadow Gundam) และเป็นผู้เชี่ยวชาญวิชานินจาเยอรมัน? ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าพระเอกของเรา โดมอน คัสชู และชี้แนะเรื่องการต่อสู้ให้กับเขา จนกลายเป็นอาจารย์คนที่ 2 ไป

จริงๆ แล้ว อาจารย์คนแรกของ โดมอน คือ มาสเตอร์ เอเชีย ซึ่งแข็งแกร่งเกินไปหน่อยจนไม่น่าจะนับเป็นพี่ใหญ่ แต่นั่นก็เป็นเพียงด้านเดียวที่น่าจดจำของเขา (ไว้จะพูดถึงในตอนต่อไป)

อย่างไรก็ดี อย่างที่เราได้อ่านกันในสัปดาห์นี้ ประเภทของ “พี่ใหญ่” ผู้เป็นแบบอย่างให้ลูกเจี๊ยบทั้งหลายในกันดั้มนั้นล้วนจำเป็นต่อพัฒนาการของตัวละครหลักในเรื่องทั้งสิ้น

เวลาที่ดูกันดั้มในคราวต่อไปพยายามมองหาความแตกต่างของตัวละครที่มีบุคลิกเป็นพี่ใหญ่ในแต่ละภาคดูสิ พวกเขามีส่วนช่วยให้คาแรคเตอร์หลักในเรื่องสามารถพัฒนาตัวเองต่อไปได้เรื่อยๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้ซีรีย์กันดั้มน่าสนใจมากขึ้นไปอีกใช่ไหมล่ะ?

เอาล่ะนี่คือทั้งหมดของสัปดาห์นี้ สัปดาห์ต่อไปเราจะมาพูดถึงเรื่องต่างๆ ที่ทำให้กันดั้มนั้น ดูกันด๊ามมม-กันดั้ม กันต่อไป