GUNDAM.INFO BOX GLOBAL SPECIAL PART2
ฉลองที่ระลึกเปิดตัว "โมบิลสูท กันดั้ม ซี้ด ฟรีด้อม"
บทสัมภาษณ์คุณโฮชิ โซอิจิโร่และคุณฟุคุดะ มิตสึโอะฉบับพิเศษ

Fukudaผมไม่ค่อยได้สนใจเท่าไรเลยครับ

Fukudaสำหรับผมเนี่ย ถ้าแฟนๆ เขาบอกว่าสนุก ผมก็พอใจแล้วครับ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลงานชิ้นนี้จะเป็นภาพยนตร์ที่ผู้ชมเข้ามาดูแล้วกลับบ้านไปด้วยรอยยิ้มครับ แค่นี้ก็หมดหน้าที่ของผมแล้วครับ (หัวเราะ)

Hoshiสุดยอดเลย ฟังแล้วเหมือนจะได้ดวงตาเห็นธรรมเลยครับ

Fukudaไม่หรอกน่า ที่จริงแล้ว (หลังจากที่ภาพยนตร์เข้าฉาย) เหมือนผมปล่อยวางแล้วก็นั่งเหม่อไปเลยละครับ เพราะผมคิดแค่ว่าอยากจะทำผลงานเรื่องนี้ให้แฟนๆ ซีรีส์ "โมบิลสูท กันดั้ม ซี้ด" ชื่นชอบครับ ถ้าจะให้พูดจริงๆ ผมไม่ได้คิดเลยว่าภาพยนตร์มันจะขายได้หรือเปล่า เพราะถ้าขายดีขึ้นมาก็เหนื่อยอีกแหละครับ (หัวเราะ)

Hoshiเอ๊ะ แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ (หัวเราะ)

Fukudaตอนที่สร้างผลงานชิ้นนี้ ผมไม่ได้โฟกัสเรื่องนั้นเลยครับ แต่ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากเลยที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้อันดับหนึ่งตลอดกาลครับ เพราะได้แรงสนับสนุนของแฟนๆ ซีรีส์ "โมบิลสูท กันดั้ม ซี้ด" แล้วก็ได้สตาฟจำนวนมากทุ่มเทแรงกายแรงใจทำผลงานชิ้นนี้ครับ ดีใจมากเลยครับที่ผลงานเป็นที่นิยมครับ

Hoshiนั่นสินะครับ ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานภาพยนตร์ที่ผมรอคอยสุดๆ เลยครับ อันที่จริงตอนที่ลงเสียงเนี่ย ผมมองส่วนหนึ่งของผลงานชิ้นนี้แบบเป็นกลางไม่ได้เลยครับ เพราะผมมองเรื่องราวในมุมมองของคิระ แล้วก็พยายามแสดงเป็นคิระอย่างสุดความสามารถเลยครับ แต่ผมไม่ได้ตื่นรู้เหมือนผู้กำกับเขานะครับ ผมตื่นเต้นมากเลยครับ เพราะผมอยากรู้ว่าเสียงตอบรับของแฟนๆ จะเป็นยังไงบ้าง (หัวเราะ) แล้วภาพยนตร์มันสื่อไปถึงคนที่รอคอยผลงานชิ้นนี้ยังไงบ้าง แฟนๆ ของตัวละครหลายๆ ตัวในเรื่องเขาจะเปิดใจรับผลงานชิ้นนี้ไหมน่ะครับ แต่พอภาพยนตร์เข้าฉายในโรง ก็ได้เสียงตอบรับอย่างล้นหลามว่าพึงพอใจมาก ผมรู้สึกได้ถึงความรักอันท่วมท้นเลยละครับ ผมดีใจมากๆ เลยครับ

Fukudaใช่ แค่ความรักก็เพียงพอแล้วครับ นี่มันหนังเกี่ยวกับความรักนะครับ

Hoshiนั่นสิครับ ความรักมันท่วมท้นไปทั่วฝั่งโปรดักชัน แล้วก็ฝั่งคนดูด้วยเลยครับ

Fukudaพูดเยอะเกิน เดี๋ยวเขาหมดรักโฮชิคุงเอานะ

Hoshiฮ่าๆ ๆ (หัวเราะ)

Hoshiผลงานชิ้นนี้เล่าเรื่องราวในอีกสองปีให้หลังครับ ตอนลงเสียง ผมเริ่มลงเสียงตอนแรกคือตอนที่คิระกำลังครุ่นคิดอย่างหนัก เลยบิลด์อารมณ์ยากมากครับ ในเรื่อง "โมบิลสูท กันดั้ม ซี้ด เดสตินี่" เนี่ย มันมีบทที่คิระพูดกับดูรันดัลว่า "ผมเตรียมใจสู้แล้ว" แล้วก็ยังมีบทที่บอกกับชินแล้วก็อัสรันว่าไปสู้กันเถอะด้วย ส่วนตัวผม นับจากตอนนั้นมันก็ผ่านมาแล้ว 18 ปีแล้วครับ ผมว่ามันเป็นความรู้สึกที่ซับซ้อนมากเลยครับเพราะไม่ว่าจะพยายามยังไงก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเปลี่ยนแปลงโลกนี้ได้ ยังทำไม่สำเร็จเลย คงจะเหมือนที่คิระรู้สึกครับ

Fukudaตอนที่ทำภาพยนตร์เรื่องนี้ โมโรซาวะเขาเคยพูดไว้ว่ามีสองอย่างที่อยากจะทำน่ะครับ คืออยากต่อยคิระ แล้วก็อยากสอยอาร์คแองเจิลให้ร่วงน่ะครับ

Hoshiโห เอางั้นเลยเหรอครับ (หัวเราะ)

Fukudaเขาบอกว่ายังไม่เคยเห็นคิระโดนต่อยสักหมัดเลยน่ะครับ

Hoshiเอ๊ะ งั้นเหรอครับ

Fukudaแล้วเขาก็พูดอีกว่า "นายซัดอัสรันจนน่วมตลอดเลยนี่"

Hoshiนั่นมันตอนที่ขับโมบิลสูทสู้กันนี่ครับ

Fukudaเขาบอกว่า "บางทีก็ให้อัสรันเป็นคนถูกบ้างก็ได้" เรื่องยานอาร์คแองเจิลด้วยก็เหมือนกัน ถ้ายานมันไม่ตก ก็ถือว่าการต่อสู้ใน "โมบิลสูท กันดั้ม ซี้ด" มันจบไม่ลงน่ะ

Hoshiโห (ถ้ายานตก) ผมก็เศร้าแย่สิครับ ผมรักอาร์คแองเจิลสุดๆ เหมือนกันนะครับ

Fukudaเขาเป็นหนุ่มน้อยที่เป็นแบบนั้นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ แค่กลับมาเป็นตัวเอง ไม่ได้มีเรื่องกวนใจเหมือนใน "โมบิลสูท กันดั้ม ซี้ด เดสตินี่" แล้ว เพราะความรู้สึกที่เขาเคยมีต่อดูรันดัลมันเปลี่ยนมาลงที่คิระหมดเลยครับ

Hoshiฮ่าๆ ๆ (หัวเราะ)

Fukudaปกติแล้ว ชินอยากให้มีคนรับรู้ความสามารถของตัวเอง มากกว่าจะเป็นคนบุกเบิกเส้นทางอะไรใหม่ๆ ครับ พอได้มาทำงานให้คิระ เขาก็เลยได้โชว์ความแข็งแกร่งน่ะครับ จะไปบอกเขาว่า "พรุ่งนี้ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ได้แล้วนะ" เขาคงจะทำไม่ได้หรอกครับ ตอนนี้เขาเป็นเด็กกำลังโตน่ะครับ มันดีมากเลยครับที่ชินได้มาสังกัดคอมพาส เพราะเขาก้าวต่อไปข้างหน้าได้ โดยไม่ต้องมีความรู้สึกบิดเบี้ยวอะไรแปลกๆ ในใจ แถมคิระยังยอมรับในฝีมือเขาด้วย เขาน่าจะแฮปปี้นะครับ

Hoshiผมสงสัยอยู่เรื่องหนึ่งครับ ฝีมือการขับโมบิลสูทในการต่อสู้ของคิระเนี่ยมันเทพมากเลย แต่ฝีมือเรื่องอื่นผมว่างั้นๆ นะครับ

Fukudaไม่ได้เรื่องเลยละ (หัวเราะ)

Hoshiผมเลยหนักใจว่าทำไมชินถึงได้ชื่นชมคิระขนาดนั้นล่ะครับ แบบนี้มันได้เหรอครับ (หัวเราะ)

Fukudaก็คาแรกเตอร์คิระเขาเป็นคนใจกว้างโอบอ้อมอารีนี่เนอะ ชินรู้หมดว่าเขาทำอะไรมาบ้าง เลยเข้าใจความรู้สึกกันไง แถมคิระก็ไม่ใช่คนบ่นจุกจิก เขาทั้งให้อิสระชิน แล้วก็ยอมรับความสามารถชินด้วย

Hoshiอย่างนี้นี่เอง

Fukudaภาพของคิระที่ชินเห็นคือเป็นคนใจกว้าง ซึ่งต่างจากอัสรันเพราะคิระเป็นคนไม่ค่อยคิดมากเหมือนชิน ก็เลยเข้ากันได้ดีครับ เดิมทีตอนออดิชั่น "โมบิลสูท กันดั้ม ซี้ด" เนี่ย มีอีกคนที่เหลือเป็นสองคนสุดท้ายกับโฮชิคุง ก็คือสุซุมุระ (เคนอิจิ) คุง ทั้งสองคนก็เป็นคิระทั้งคู่นั่นแหละ

Hoshiแปลว่าสองคนนี้มีอะไรที่คล้ายๆ กันสินะครับ

Fukudaผลงานเรื่องนี้ผมสร้างขึ้นมาโดยโฟกัสไปที่ความบันเทิง แทนที่จะไปโฟกัสว่าเนื้อเรื่องมันเข้าธีมไหม หรือต้องเล่าเรื่องอะไรยากๆ ไหม เอาง่ายๆ เลยนะครับ คือผมอยากจะถามคนที่มาดูว่า "ทุกคนสนุกไหม" ถ้าทุกคนสนุกไปกับมัน ผมว่ามันคงเยี่ยมไปเลยละครับ คือพวกผมก็สอดแทรกสิ่งที่อยากจะสื่อลงไปในเนื้อเรื่องนะครับ แต่ไอ้ข้อความที่พวกผมอยากจะสื่อมันไม่ใช่เป้าหมายหลักครับ เป้าหมายที่สำคัญที่สุดของพวกผมคือผู้ชมเขาหัวเราะร้องไห้ไประหว่างที่ชมอยู่แค่ไหน ดูเสร็จแล้วเขาจะพูดคุยเรื่องนี้กับคนอื่นๆ อย่างออกรสไหมน่ะครับ ผมสร้างผลงานนี้ขึ้นมาเพราะอยากตอบแทนผู้คนที่สนับสนุนซีรีส์ "โมบิลสูท กันดั้ม ซี้ด" มาโดยตลอดครับ ถ้าความรักนี้ส่งไปถึงแฟนๆ ที่อยู่ต่างประเทศด้วยก็คงจะดีครับ

Hoshiผมว่าแฟนๆ ที่สนับสนุนซีรีส์ "โมบิลสูท กันดั้ม ซี้ด" มาเป็นระยะเวลายาวนานทั้งในญี่ปุ่น แล้วก็ต่างประเทศเองเนี่ยจะต้องรู้สึกเหมือนกับที่ผมรู้สึกแน่เลยครับ รวมไปถึงคนที่ถือโอกาสนี้เริ่มติดตามชม "โมบิลสูท กันดั้ม ซี้ด" ด้วยนะครับ ถ้าได้ดู "โมบิลสูท กันดั้ม ซี้ด ฟรีด้อม" แล้ว ทุกคนจะได้เจอกับความเป็นไปได้ใหม่ๆ แล้วก็ได้สัมผัสกับสิ่งต่างๆ มากมายแน่นอนครับ ผมอยากให้ความรักที่อยู่ในผลงานชิ้นนี้แผ่ขยายไปทั่วโลกเลยครับ ผมอยากให้ทุกคนที่ดูผลงานชิ้นนี้แชร์ความรู้สึกและแก่นแท้ของเรื่องให้คนอื่นๆ อีกมากมายได้รับรู้ครับ ผมหวังว่าแฟนๆ ทุกคนจะทำให้จักรวาล "โมบิลสูท กันดั้ม ซี้ด" มันมีชีวิตชีวาขึ้นมาครับ ผมอยากให้ทุกๆ คนสนุกสนานและดูผลงานชิ้นนี้ซ้ำๆ หลายๆ รอบเลยครับ ขอบคุณมากครับ